พาชม "เจดีย์วิหารธรรมยางจี" (Dhammayangi Pagoda) พุกาม พม่า
"เจดีย์วิหารธรรมยางจี" (Dhammayangi Pagoda)
นี่เป็นเจดีย์ที่มีรูปทรงโดดเด่นมากองค์นึงในพุกามเลย เราแอบรู้สึกว่ารูปทรงเจดีย์วิหารธรรมยางจี (Dhammayangi) มีความคล้ายกับพิรามิดมากกว่าจะเป็นเจดีย์ ยิ่งได้ฟัง Story แล้วยิ่งรู้สึกว่า… กษัตริย์ผู้ดำริให้สร้างเจดีย์แห่งนี้ น่าจะเคยไปดูงานที่อียิปต์มาแน่นอน!!!
ตรงทางเข้าวิหาร จะเห็นมีหุ่นไม้พม่าแขวนไว้ตามต้นไม้เต็มเลย
เจดีย์วิหารธรรมยางจี ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่และแข็งแรงที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านรปติสิธู เจดีย์สร้างจากอิฐแดงเป็นล้านๆ ก้อน ยิ่งเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ เราจะต้องทึ่งกับความประณีตของการบรรจงวางแนวอิฐแต่ละก้อน ที่ชิดจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
ว่ากันว่าพระเจ้านรปติสิธูนั้นเนี๊ยบถึงขนาดว่า หากพระองค์เอาเข็มจิ้มลอดระหว่างอิฐสองก้อนได้ นายช่างผู้นั้นจะถูกตัดมือและประหารชีวิตทันที!! ความโหดของพระองค์นี้เป็นที่มาของการสร้างเจดีย์วิหารธรรมยางจี นั่นเพราะพระองค์สังหารพระบิดาและพี่เชษฐา (พี่ชาย) ของตน เพื่อขึ้นครองบัลลังค์ แต่ต่อมาเกิดสำนึกผิดได้ จึงตั้งใจสร้างเจดีย์นี้เพื่อไถ่บาป
แต่ก็เหมือนถูกสาป เพราะเจดีย์นี้ไม่เคยสร้างเสร็จ เพราะพระเจ้านรปติสิธูสิ้นพระชนม์เสียก่อน จึงทิ้งไว้แต่อิฐเปลือยๆ ไม่มีปูนฉาบ ไม่มีจิตรกรรมฝาผนังอย่างที่วัดอื่นมีกัน แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เราสองคนได้พบ ก็สามารถพิสูจน์ความรุ่งเรืองของเจดีย์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ด้านในมีพระนอนองค์เล็กอยู่ในซุ้มที่ก่ออิฐถือปูน สวยมากๆ
พระพุทธรูปในวัด สร้างขึ้นอย่างอ่อนช้อย สวยงาม
อยากถ่ายภาพทะเลเจดีย์ ไปที่ไหนดี
มาถึงบรรทัดนี้คงไม่ต้องอธิบายกันมากละ เมืองพุกามนี่คือสวรรค์สำหรับนักถ่ายภาพและนักท่องเที่ยวที่อยากจะดื่มด่ำกับวิวทะเลเจดีย์เป็นพันๆ องค์ ท่ามกลางทิวเขาและท้องฟ้ายามเช้า-เย็น เราไม่รู้ว่าเกือบ 1,000 ปีก่อนตรงนี้จะงามแค่ไหน แต่เราบอกได้เลยว่าวิวตรงหน้าที่เราเห็น ณ ปัจจุบันนี้ ยังสวยตรึงตาจริงๆ
ย้อนกลับไปสัก 4-5 ปีก่อน มีเจดีย์น้อยใหญ่หลายแห่งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิว เราอ่านเจอในเว็บเมืองนอกก็อิจฉา เพราะด้วยความเสื่อมโทรม การขาดการดูแล และแผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดเมื่อปี 2559 ทำให้เจดีย์พร้อมมุมแจ่มๆ เหล่านั้นถูกปิดไม่ให้ขึ้นไปซะแล้ว
แต่อย่าเพิ่งเศร้าใจ ชาวเมืองพุกามยังอนุญาตให้เราขึ้นไปถ่ายภาพสวยๆ ยามเช้า-ยามเย็น บนเจดีย์บางแห่งได้ ถึงจะไม่เยอะ แต่เราก็เอามุมเหล่านั้นมาชี้เป้าให้เรียบร้อยแล้ว
มุมถ่ายภาพแสงเช้า
- เจดีย์ชเวสันดอว์ (Shwesandaw Pagoda) นี่คือมุมมหาชน (พร้อมนักท่องเที่ยวมากมาย) ที่นี่เป็นเจดีย์ใหญ่ เมื่อปีนขึ้นไปชั้นบนสุดจะเห็นวิวได้ไกล ถ่ายได้ทั้งแสงเช้าและเย็น แต่ต้องไปจองมุมเร็วๆ นะ
- เจดีย์ Law Ka Ou Shaung เจดีย์นี้อยู่ทางตะวันตกของเจดีย์ชเวสันดอว์ ข้อดีคือคนไม่เยอะมาก แต่ต้องปีนขึ้นไปชั้น 2 หรือ 3 เพื่อจะได้ขึ้นมาเหนือยอดไม้ เพื่อจะได้ชมวิวงามๆ ยามเช้า
สำหรับเราซึ่งมีเวลาถ่ายแสงเช้าแค่เพียงวันเดียว เราเลยเลือกไปที่เจดีย์ชเวสันดอว์แทน กะว่ารอบหน้าจะวางแผนไปเก็บแสงเช้าที่ Law Ka Ou Shaung บ้าง
ภาพจากเจดีย์ชเวสันดอว์
ภาพจากเจดีย์ชเวสันดอว์
มุมถ่ายภาพแสงเย็น
-เจดีย์ชเวสันดอว์ (Shwesandaw Pagoda) มุมมหาชนมุมเดิม ที่ถ่ายได้ทั้งแสงเช้าและแสงเย็น ส่วนตัวเราว่ามุมเช้าที่นี่สวยกว่าแสงเย็นนะ
-เจดีย์บูเลธิ (Bulethi Pagoda) เป็นหนึ่งในมุมโปรดของเรา ซึ่งคนไม่พลุกพล่าน เข้าถึงง่าย (และปีนง่าย) มุมสวยๆ ของเราหลายภาพ ได้จากที่นี่แหล่ะ
-เจดีย์ Ta Wet Hpaya (ออกเสียงที่ถูกต้องยังไงโปรดบอกที) ถือเป็น Secret Pagoda ที่หลายสำนักลงมติกันว่าเจ๋งมาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความลำบากในการปีนป่ายเพื่อขึ้นไปยังด้านบนเจดีย์ ขนาดว่าเราตัวใหญ่ๆ ยังขึ้นไปถ่ายภาพมาได้เลย ^_^
สำหรับเจดีย์ Ta Wet Hpaya นั้น ช่วงสัก 7:00-8:00 น. จะเป็นช่วงเวลาที่สวยในการถ่ายพระพุทธรูปที่อยู่ด้านในเจดีย์อีกด้วย เพราะจะมีแสงลอดผ่านช่องผนังเข้ามายังพระพุทธรูป ดูสวยงามมาก ยิ่งถ้าได้เณรสัก 2 รูป มายืนจุดเทียนตรงหน้าองค์พระ รับรองยิ่งเจ๋ง (แต่ต้องมีเงินจ้างนะ ^_^)
ภาพจากเจดีย์ชเวสันดอว์
อาณาจักรพุกาม คือหลักฐานความรุ่งเรือง เกือบ 1,000 ปีของพม่า ที่นี่ไม่ได้มีแค่ซากโบราณสถานของเจดีย์ 2,200 องค์ ให้เราไปถ่ายรูปเล่นเท่านั้น เราพบว่าคนเมืองพุกามมีความรักในบ้านเมืองของเค้า มีใจที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสวิถีชีวิตในแบบพุกาม ตลอดเวลาเกือบ 2 วัน เราพบว่าที่นี่มีเสน่ห์มากกว่าที่เราคิดจริงๆ
ที่มา : ibreak2travel.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น