จตุรัสเมอร์เดก้า ( Merdeka Square หรือ Dataran Merdeka) มาเลเซีย
จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) บริเวณจัตุรัสแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของเสาธงที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นธงชาติประจำชาติมาเลเซียที่ได้รับการชักขึ้นสู่ยอดเสา เมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1957 เมื่อได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับจตุรัสฯ เป็นอาคารสุลต่านอับดุล ซาหมัด ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ มาเลเซียไปแล้ว อาคารแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบ มูริส อินเดียผสมผสานกับศิลปะแบบอาหรับ ความสูงของยอดโดมมีขนาดเท่ากับ 40 เมตร และหอนาฬิกาที่ตั้งตระหง่านอวดความสวยงามของตัวตึกและในเวลากลางคืน จะมีการติดไฟระยิบระยับเต็มไปหมด
ยิ่งเพิ่มความสวยงามให้กับอาคารแห่งนี้ สถานีรถไฟ KL ซึ่งจัดว่าเป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งตั้งตระหง่าน อยู่บนถนนฮาชามัดดิน (Jalan Hashamuddin) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1911 ภายนอก สถานีสร้างแบบมูริส มีลักษณะเป็นหอสูงคล้ายมัสยิด แต่ภายในสร้างและตกแต่ง เหมือนสถานีรถไฟวิกตอเรีย
อาคารสุลต่านอับดุลซามัด (Sultan Abdul Samad Building)
• อาคารสุลต่านอับดุลซามัด สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2440 ตั้งชื่อตามพระนามของสุลต่านแห่งสลังงอร์ โดยใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานราชการในยุคที่อังกฤษเข้ามาปกครอง ปัจจุบันเป็นอาคารสำนักงานของศาลฎีกา
• อาคารสุลต่านอับดุลซามัค และ หอนาฬิกา สูง 40 เมตร เป็นตัวอาคารเก่าแถบ Merdeka Square ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม แบบ มัวร์ ส่วนที่เป็นหอนาฬิกาสูง 40 เมตรที่นั้นมักจะเรียกกันว่าเป็น บิ๊กเบนของมาเลเซีย ส่วนด้านบนจะเป็นโดมขนาดใหญ่สีทอง อาคารนี้สร้างเมื่อเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เพื่อใช้เป็นศูนย์บริหาร อาณานิคมของอังกฤษ ปัจจุบันใช้อาคารที่ทำการของรัฐบาล
• พระราชวังอิสตาน่า ไนการ่า (istana negara palace)
พระราชวังอิสตาน่าไนการ่า พระราชวังแห่งชาติ สถานที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดี หรือยังดีเปอร์ตวนอากง พระราชวังแห่งนี้จะเป็นกลุ่มอาคารรูปทรงโดมเชื่อมกับทางหลวงไปยังตัวเมือง และมีถนนทางเข้าพิเศษหลายเส้นทางพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ซึ่งมีการครอบครองมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 และกลายเป็นเขตพระราชฐานนับตั้งแต่นั้น
ที่มา : mu-ku-ra.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น